‘Aardvark’ คือชื่อของ สัตว์ประเภทหนึ่ง ที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อของมันอยู่สักหน่อย โดยความเป็นมาของมันนั้นไม่ธรรมดาเลย สำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จักกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดนี้กัน
‘Aardvark’ หรือ หมูดิน อีกหนึ่งสัตว์ที่มีความน่าสนใจ
‘Aardvark’ คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทหนึ่ง โดยเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา ตั้งแต่แอฟริกากลางลงไป สำหรับ ‘Aardvark’ มีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า ‘Aarde varken’ ซึ่งแปลว่า ‘หมูดิน’ โดย ‘Aardvark’ มีลักษณะของจมูกและส่วนปากลากยาวลงมา และมีฟันเป็นรูป 6 เหลี่ยม จำนวน 20 ซี่ ซึ่งฟันมีลักษณะเป็นเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ ซึ่งก็คือ ฟันจะงอกขึ้นมาได้ถ้าไม่ได้มีการแทะที่เหมาะสม โดยมีหูยาวเหมือนลา มีอุ้งเท้าเหมือนกับกระต่าย และมีหางคล้ายหนู
คุณสมบัติของ ‘Aardvark’
จัดเป็นสัตว์ที่มีประสาทการรับกลิ่นรวมทั้งมีการรับฟังดีเยี่ยม โดยความพิเศษของหูสามารถรับฟังเสียงเคลื่อนไหวของแมลงที่อยู่ใต้ดินได้ มีอุปนิสัยชอบออกหากินในเวลากลางคืน หาเหยื่อด้วยการเดินสูดกลิ่นไปเรื่อยๆ และอาหารของโปรด คือ แมลงตามพื้นดิน เช่น มด, ปลวก เป็นต้น ‘Aardvark’ ใช้กรงเล็บขุดดินหรือใช้ทำลายจอมปลวกแล้วนำมากิน ใช้ลิ้นเลียตวัดเข้าปาก ‘Aardvark’ สามารถเดินหากินได้ไกลถึง 48 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีทักษะพิเศษในการหลบหลีกซ่อนตัวได้อย่างว่องไวมาก โดย ‘Aardvark’จะเลี้ยงดูลูกอ่อนเมื่อเบบี้อายุได้ 6 เดือน หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้เบบี้ออกหากินเองนอกจากนี้ ‘Aardvark’ ยังมีความเกี่ยวข้องกับแตงกวาชนิด เพราะพวกมันจะขุดดินลงไปเพื่อกินแตงกวาชนิดนี้ ในช่วงแมลงขาดแคลน หลังจากนั้นจึงฝังมูลเอาไว้
‘Aardvark’ กับ ตัวกินมดมีความเกี่ยวข้องกันไหม
ย้อนไปในอดีต ‘Aardvark’ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งก่อนหน้านี้มันถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับ ตัวกินมด หากแต่ความจริงในปัจจุบันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากต่างฝ่ายต่างวิวัฒนาการขึ้นมาในพื้นที่ที่มีความแตกต่างกัน โดยตามธรรมชาติแล้ว ‘Aardvark’ มีความเชื่องช้า สายตาไม่ดี จึงทำให้ธรรมชาติสร้างสิ่งอื่นมาทดแทน
โดยจมูกซึ่งเป็นอวัยวะที่มีความโดดเด่นของ ‘Aardvark’ ประกอบด้วย กระดูกและประสาทรับกลิ่นที่มีความพิเศษ มากกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ ทำให้ดมกลิ่นงุดๆ ได้ดี ส่วนใบหูของมันก็สามารถได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใต้พื้นดินที่มีความเบาที่สุด และกรงเล็บอันหนาใหญ่ทรงพลังของมัน ก็สามารถทลายรังจอมปลวกที่มีความแข็งแรงได้เหมือนกับเอาพลั่วตักลงไปเลยทีเดียว ตามปกติเมื่อน้องหมูดินเจริญเติบโตในขั้นสุดแล้ว จะมีน้ำหนัก 40 – 70 กิโลกรัมเลยทีเดียว
‘Aardvark’ กับ ‘Aardwolf’
นอกจาก ‘Aardvark’ แล้วก็ยังมี ‘Aardwolf’ อีกด้วย ซึ่ง ‘Aardwolf’ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีลักษณะรูปร่างคล้ายสุนัขป่า ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกันกับ ‘ไฮยีน่า’ หากแต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้เป็นสัตว์นักล่า หากมีชีวิตอยู่อย่างสงบราบเรียบด้วยการกินแมลงตัวเล็กๆ เช่น ปลวก ด้วยเหตุนี้นี่เองมันจึงถูกตั้งชื่อให้คล้ายกับตัว ‘Aardvark’ ที่กินปลวกเป็นอาหารเช่นเดียวกัน โดยคำว่า ‘Aard’ เป็นคำศัพท์มาจากคำในภาษาดัตช์ ซึ่งแปลว่า ‘พื้นโลก’ โดย ณ ปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ต่างมีความกังวลว่า ในอนาคต ‘Aardvark’ อาจเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะไม่อาจปรับตัวให้ทันกับสภาพอากาศในแอฟริกาที่มีความร้อนระอุมากขึ้นในทุกๆ ปี อีกทั้งยังปัญหามาจากการถูกจับเพื่อนำไปทำเป็นอาหาร หากแต่อย่างไรเราคนไทยก็สามารถช่วยเจ้าตัว ‘Aardvark’ และสัตว์ตัวอื่นๆ ได้ด้วยการลดการใช้พลาสติกให้น้อยลงนะ